ไอเดีย ตั้งชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ ที่ใช้ได้ทั้งออฟไลน์และออนไลน์อย่างเช่น ร้านบนไอจี ร้านบนเฟสบุ๊ค หรือชื่อเว็บไซต์ที่มีความสามารถเป็นร้านออนไลน์ได้มีวิธีที่แตกต่าง และเงื่อนไขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทางเราเลยเสนอทางเลือกด้วยไอเดียตั้งชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ 11 วิธีด้วยกันครับ เรามาทำให้ร้าน DM INBOX แตกไปด้วยกัน
สารบัญ
พื้นฐานการตั้งชื่อร้าน
การตั้งชื่อร้าน ควรเลือกชื่อที่สื่อความหมายของธุรกิจ หรือสินค้าของคุณได้อย่างชัดเจนและน่าจดจำ และข้อสำคัญ คือชื่อไม่ควรซ้ำกับธุรกิจอื่น ๆ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ในระยะยาว นอกจากนี้ควรเลือกชื่อที่เข้ากับตลาดและกลุ่มลูกค้าของคุณ และไม่มีความเกี่ยวข้องกับการละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิบัตรของบุคคลอื่นๆ
11 ไอเดีย ตั้งชื่อร้านเก๋ๆ ให้น่าสนใจ
1. ต้องใช้ได้ทั้งไทยและอังกฤษ
คุณ TG_Min แห่งบอร์ดไทยเสียวได้ให้คำแนะนำในการเลือกชื่อโดเมนเนมเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า ‘ถ้าจะสร้างอะไรซักอย่างให้คนจดจำ อย่าใช้ภาษาท้องถิ่นเพราะเป็นการปิดโอกาสในการออกสู่โลกกว้าง เว้นแต่คุณจะมีจุดประสงค์เพื่อขายตัวตนอันนั้นทำได้ แต่เผื่อทางเลือกให้คนที่ไม่รู้ด้วย เช่น จดมันทั้งอังกฤษทั้งไทย ทับศัพท์เลยก็ดี’ เพราะฉะนั้นแล้วการตั้งชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ มันต้องใช้ได้ทั้งไทยและอังกฤษครับ
2. ชื่อร้านแบบมีคำนำหน้า
เคยไหมว่าชื่อร้านหรือชื่อเว็บไซต์เราเลือกนั้นมันอาจจะไปซ้ำกับคนอื่น วิธีการอย่างง่ายเลยใส่คำนำหน้าลงไปเช่น คำว่า Cloud มันซ้ำก็ใช้คำว่า The cloud ครับ ผู้อ่านลองไปหาคำนำหน้ามาเพิ่มลงในคำที่ท่านอยากได้มันอาจจะเป็นการตั้งชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ ที่ดีก็ได้ครับ
3. ชื่อร้านแบบมีคำลงท้าย
ผู้อ่านรู้เว็บไซต์ spotify รึป่าวครับ รู้ไหมว่าคำลงท้ายที่ว่า -tify แปลว่าอะไร ผมก็ไม่รู้อาจจะมีความหมายในภาษาหนึ่งก็ได้ครับ หลักการง่ายๆ คือการเอาคำแรกที่ชอบหรือเป็นคำแรกที่ตรงกับธุรกิจของเรามาใส่กับคำที่เราอยากต่อท้ายเช่น spotify หรือ shopify เท่านี้เราก็ได้ชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆไม่ซ้ำกับใครแล้วครับ
4. ชื่อร้านต้องไม่มีคำหยาบ
ผมเห็นยูทูปเบอร์ท่านหนึ่งใช้ชื่อช่องว่า ช่องคลอด ท่านคงรู้ว่ามันแปลว่าอะไร แม้ว่าคำนั้นจะเป็นคำผวนหรือเป็นคำศัพท์เฉพาะกลุ่ม แต่ถ้ามีความหมายไปในทางลบมันก็ไม่ดีทั้งนั้นครับ แนะนำว่าเลี่ยงๆ ไว้ดีกว่าครับ อนาคตถ้าได้ collab หรือร่วมงานกับแบรนด์ดังแล้ว เรื่องถาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญมากครับบอกเลย
5. ไอเดียตั้งชื่อร้าน ไม่จำเป็นต้องมีความหมาย
คนมักนิยามความหมายของคำว่า Google ว่าเครื่องมือค้นหา หรือเว็บไซต์สำหรับค้นหา แต่แท้จริงแล้วมันไม่มีความหมายครับ แต่มันอาจเป็นคำที่โดนใจ ออกเสียงง่าย เขียนง่าย หรือแม้กระทั่งจำง่าย ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีในการตั้งชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ ครับผม

6. ตั้งชื่อร้านอย่ายึดโยงกับสถานที่
ร้านข้าวมันไก่เจ้แดงประตูน้ำ ผู้อ่านคงเคยได้ยินการตั้งชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ ในลักษณะนี้กันมากันบ้าง ลองคิดดูสิว่าถ้าย้ายสถานที่แต่ชื่อร้านเดิมจะทำอย่างไร แล้วถ้าเปลี่ยนคนขายด้วยเหตุผลใดๆ คนจะจำชื่อแบรนด์เราได้ไหม ไหนๆ ตั้งชื่อร้านทั้งทีอย่าโยงกับสถานที่หรือตัวบุคคลครับมันแก้ยาก
7. ไอเดียตั้งชื่อร้าน แบบเอาคำมารวมกัน
รู้ไหมว่าว่าคำว่า voom แปลว่าอะไรครับ มันมาจากคำว่า ‘Video Room’ ‘Visual Room’ และคำว่า ‘Boom’ เอามาผสมกันจนกลายเป็นคำว่า VOOM ไหนๆ ก็หาคำลงไม่ได้ก็เอารวมกันซะเลยจนออกเป็นการตั้งชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ แถมยังไม่ซ้ำใครอีกต่างหาก
8. ชื่อร้านต้องจำง่าย
คนเราชอบจำอะไรง่ายๆ เพราะฉะนั้นชื่อร้านของเราต้องจำง่าย เมื่อจำง่ายก็บอกต่อคนอื่นๆ ได้ครับ ดังนั้นชื่อร้านต้องมีสองถึงสามพยางค์ เช่น กูเกิ้ล (Google) เฟสบุ้ค (Facebook) หรือแม้กระทั่งไมโครซอฟต์ (Microsoft) ก็เป็นการตั้งชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ เช่นกันครับ
9. ตั้งชื่อร้านโดยใช้คำจากภาษาต่างประเทศ
ไอเดียตั้งชื่อร้านออนไลน์แบบนี้เป็นที่นิยมมากครับ เช่น เราตองการตั้งชื่อร้านว่า run (ที่แปลว่าวิ่ง) แต่มีคนจดโดเมนเนมไปแล้วแถมชื่อร้านยังไปซ้ำกับคนอื่นอีก ลองเอาคำว่าวิ่งไปหาในภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาสเปน หรือภาษาอินโด เราอาจได้ชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ จำง่าย และเขียนง่ายก็เป็นได้ครับ
10. ใช้เว็บตั้งชื่อร้านช่วย
ใครที่ทำตามคำแนะนำแล้วยังไม่ถูกใจหรือยังหาชื่อร้านเก๋ๆ ไม่ได้อีก ผมขอแนะนำเว็บไซต์สำหรับการตั้งชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆอย่างเว็บไซต์ namelix.com เพียงท่านใส่คำที่ต้องการสั้นๆ (Keyword) ตัวระบบเว็บไซต์ก็จะทำการสร้างชื่ออกมาให้เสร็จสรรพ พร้อมยังตรวจสอบได้อีกว่าชื่อซ้ำกับคนอื่นหรือไม่ครับ
11. ตั้งชื่อแบบยาวๆ หลายพยางค์
2 พยางค์ก็ซ้ำ 1 พยางค์ยิ่งแล้วใหญ่เลยครับ ผมเลยเสนอทางเลือกว่าตั้งให้มันยาวๆ ไปเลยครับ เช่น เว็บไซต์ mission to the moon เป็นตัวอย่างที่ดีครับ เป็นการตั้งชื่อร้านภาษาอังกฤษเก๋ๆ ที่มีความหมายและยังมีสเน่ห์อีกด้วย
Leave a Reply